การหลงลืมนั้นหลายคนนั้นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ปกติ หรือ อาจจะมองว่าหลงลืมเป็นครั้งคราว ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ว่าในความจริงแล้วบางครั้งอาการหลงลืมนั้นอาจจะไม่ได้ เป็นเพียงแค่ชั่วคราวแต่ว่าอาจจะเป็น สัญญาณเตือนของ “อัลไซเมอร์” ก็ได้นะครับ ดังนั้นในเรื่องของสัญญาณต่าง ๆ นั้นเราจะมาดูกันดีกว่านะครับว่าจะมีสัญญาณอะไรบ้างที่บ่งบอกว่า อัลไซเมอร์กำลังจะมาเยือนนั้นเอง
หลงลืมอะไรง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน
อย่างแรกเลยนั้นคือในเรื่องของ “อาการหลง ๆ ลืม ๆ “ กับอะไรที่เคยจำได้ในชีวิตประจำวัน หรือ เหตุการณ์ประจำวัน และ วันสำคัญต่าง ๆ หรืออาจจะมีอาการถามสิ่งซ้ำ ๆ วนเวียนไปหลาย ๆ รอบ ๆ และ อาจจะต้องใช้เครื่องช่วยบันทึกต่าง ๆ เช่น สมุดจด หรือ บุคลในครอบครัว ซึ่งอาการหลง ๆ ลืม ๆ อย่างนี้นั้นเราอาจจะคิดว่าเป็นเพียงแค่การหลงลืมเพียงแค่เล็กน้อย แต่ว่าหากว่าเกิดขึ้นบ่อย ๆ นั้นอาจจะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายนะครับ
ลืมขั้นตอนง่าย ๆ หรือ การวางแผนในชีวิตประจำวัน
ต่อมานั้นคือในเรื่องของ “การวางแผนในชีวิตประจำวัน” และ ขั้นตอนที่ง่าย ๆ หรือ ขั้นตอนที่เคยทำอยู่ทุกวันในชีวิตประจำวัน เช่น การจ่ายเงินผ่านธนาคาร การกระทำต่าง ๆ นั้นไม่มีแบบแผนและขั้นตอน ลืมการขับรถ และ ยังมีอีกหลากหลายอย่างมาก ซึ่งอาการนี้จะบ่งบอกอย่างชัดเจนถึงการเปลี่ยนไป และทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ใช่อาการหลง ๆ ลืม ๆ แบบปกติอย่างแน่นอน
รู้สึกไม่คุ้นเคย กับ สถานที่คุ้นเคย
การทำงานในชีวิตประจำวัน หรือ ที่ทำงาน หรือ บ้าน นั้นจะรู้ยากมากขึ้นทั้งเวลาในการทำงาน ที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ทำงานนั้นจะรู้สึกไม่สบายใจ และ รวมทั้งในเรื่องของ การจำกติกา ของกีฬาที่เคยเล่นทุกวัน กับเล่นไม่ได้ หรืออาจจะไม่คุ้นเคย และ ลืมวิธีเล่นกีฬาที่ตัวเองชอบ
กะระยะความสัมพันธ์ได้ยากมากขึ้น
ถ้าอาการนี้แสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้วนั้นหมายความว่าคนใกล้ชิดนั้นจะต้องคิดถึงในเรื่องของ การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ไว้ได้เลยนะครับ เพราะว่าจะทำให้จากเดิมที่สามารถกะระยะห่างต่าง ๆ ได้ดี แต่เมื่อประสพกับปัญหาของอัลไซเมอร์นั้นจะทำให้ไม่สามารถที่จะกะระยะได้ หรือ อาจจะ อ่านหนังสือ และ ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ด้วยนั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตายอย่างมากด้วยเช่นกัน
ตัดสินใจได้ยาก
การตัดสินใจนั้นจะทำได้ยากมากขึ้นอย่างมากด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การตัดสินใจด้วยตัวเองเช่น จะอาบน้ำดีหรือไม่ หรืออาจจะเริ่มมีปัญหาในการตัดสินใจเรื่องอื่นเช่น การไปงานสำคัญก็จะไม่แต่งหน้า ไม่ทำผม
บุคลิกที่เปลี่ยนไป
สุดท้ายนั้นจะเป็นอาการที่แสดงชัดเจนมากที่สุดนั้นคือในเรื่องของ “การวิตกกังวล” และ บุคลิกที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เป้นคนสดใสร่าเริง นั้นก็จะเปลี่ยนบุคลิกที่ไม่มีความสดใส ไม่มีความร่าเริง มีความวิตกกังวล ดูสับสน และ หวาดกลัว
ซึ่งหากว่าพบอการดังที่กล่าวมานั้น ผู้ดูแลที่ใกล้ชิด หรือ ผู้ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ นั้นควรที่จะเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อที่จะเริ่มรักษาอาการอัลไซเมอร์ และได้รับการรักษาให้ดีที่สุด และ ยิ่งรู้ได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรักษาได้เร็วมากขึ้นด้วยเช่นกัน